‘บิ๊กตู่’ชี้‘คนปล่อยคลิปไม่คิดกับบ้าน’

‘บิ๊กตู่’ชี้คนปล่อยคลิปทำร้ายประเทศไม่คิดกับบ้าน มึนโดนอ้างชื่อให้หนุนรับและคว่ำรธน. ลั่นยังเป็นนักการทหารไม่ได้เป็นนักการเมือง
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 3 ก.ย.2558 ที่ห้องมัฆวานรังสรรค์ สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวระหว่างเป็นประธานการรับฟังการแถลงยุทธศาสตร์ชาติ-ยุทธศาสตร์ทหาร พ.ศ. 2559-2563 ขอนักศึกษาวิทยาลับป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 57 (นศ.วปอ.รุ่นที่ 57 ) ตอนหนึ่งว่า “วันนี้มีการใช้โซเชียลมีเดีย เพื่อทำร้ายกันมาก ผมไม่ยอมอยู่แล้วเพียงแต่ว่าเขาอยู่ต่างประเทศ ตอนนี้กำลังหามาตรการอยู่ ถ้าอยู่ต่างประเทศแล้วยังทำอยู่ต่อไป ทั้งคลิปหรืออะไร อยู่ได้อยู่ไปวันนี้ก็ถอนพาสปอร์ตแล้วก็ยังทำอยู่ พวกนี้คิดจะไม่กลับมาแล้ว คิดทำลายให้หมดประเทศไทย อย่าอยู่เป็นสุขกันเลย ก็คิดกันแบบนี้พวกวางระเบิดทั้งหลายในช่วงก่อนหน้านี้ ส่วนช่วงใหม่กำลังสอบอยู่ คนเหล่านี้เป็นคนใจร้าย แสดงว่าบ้านเมืองเรายังไม่สงบทั้งปัจจัยภายในและภายนอกจึงต้องขอความร่วมมือกับทุกท่าน” มึนโดนอ้างชื่อให้หนุนรับและคว่ำรธน. พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า หลังจากได้ฟังการแถลงยุทธศาสตร์และฟังข้อสรุปแล้วต้องขอชื่นชมและดีใจที่คิดตรงกันกับรัฐบาล ปัญหาอยู่ที่ว่าเราจะทำอย่างไรให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ประเทศไทยมีปัญหาคือรู้ว่าโจทย์คืออะไร ผลลัพธ์ต้องการอะไร เราต้องไปคิดหาวิธีว่าจะต้องทำอย่างไร ระเบียบ วิธีการ งบประมาณและคนของเรามีความพร้อมหรือไม่ รู้สึกดีใจที่มีภาคพลเรือนเข้ามาเรียนจำนวนมากเพื่อจะได้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน ทุกวันนี้ตนปวดหัวเนื่องจากมีปัญหามากเช้าเรื่องหนึ่ง กลางวันอีกเรื่อง ตกบ่ายก็มีเรื่องใหม่เข้ามา เนื่องจากมีงานและปัญหามาก พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ปัญหาของประเทศมีมากมายเป็นร้อยเรื่องซึ่งสามารถแก้ไขได้พอสมควร ทั้งปัญหาความรุนแรง ปัญหาความไม่เป็นธรรม ปัญหาการทุจริต ปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปัญหาการศึกษา แม้จะแก้ปัญหาไปแล้วแต่ก็ยังพร้อมที่จะปะทุเกิดขึ้นมาใหม่ ผ่านมาระยะหนึ่งก็ลืมกันไปว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง “อย่างวันนี้ก็กลับมาพูดกันถึงเรื่องของประชาธิปไตยกันอีกแล้ว ยืนยันว่าผมไม่ได้ขัดข้องใครเลย ก็ดีใจที่ยุทธศาสตร์ชาติในวันนี้ตรงกับที่เราวางไว้เป็นโรดแมพระยะที่1ส่วนระยะยาวก็อยู่ระหว่างดำเนินการ อย่างไรก็ตามเรื่องของความเข้าใจเป็นเรื่องสำคัญ แต่ก็มีบางคนอยู่ในห้องไม่พูดไม่ถาม แต่พอออกนอกห้องก็มาบอกว่าไม่เข้าใจ ไม่เห็นด้วย เพราะไม่ได้พูดไม่ได้ถาม หัวใจสำคัญวันนี้คือการขับเคลื่อนนโยบาย ซึ่งแบ่งเป็น3ส่วน คือโยบาย การขับเคลื่อน และผู้ปฏิบัติ ”นายกรัฐมนตรี กล่าว พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเรามอบอำนาจเด็ดขาดให้กับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งมานาน แต่เมื่อวันนี้เราเข้ามาทำงานซึ่งไม่เคยต่อต้านความเป็นประชาธิปไตย แต่บทบาทที่ต้องทำวันนี้คือต้องเดินหน้าประเทศไปให้ได้และสร้างความไว้วางใจและเชื่อใจซึ่งกันและกัน วันนี้มีปัญหาว่าร่างรัฐธรรมนูญจะรับหรือไม่รับในวันที่6ก.ย. ซึ่งก็ไม่รู้ว่าปัญหาอยู่ตรงไหนว่าจะรับหรือไม่รับ รัฐธรรมนูญของประเทศต้องเป็นประชาธิปไตยที่เป็นสากล วันนี้จะรับหรือไม่รับก็ต้องรอดู “วันนี้เรื่องรับหรือไม่รับก็มีข่าวเข้ามาสองสาย สายหนึ่งบอกนายกฯ รับ อีกสายบอกว่านายกฯ ไม่รับ ซึ่งผมยังไม่รู้เลยว่าสองสายนี้มาจากใครยังไม่รู้เลย สรุปว่าผมเหยียบเรือสองแคมอย่างนั้นหรือ ซ้ายก็ได้ ขวาก็ได้ ผมไม่ได้มีอะไรกับใครอยู่แล้วและไม่เคยไปขอหรือสั่งอะไรกับใคร ขอแค่5ปี ให้เดินยุทธศาสตร์ชาติได้ แค่นี้ก็ยังให้กันไม่ได้”นายกกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า วันนี้ถ้าร่างรัฐธรรมนูญผ่านไปก็ดำเนินการตามขั้นตอนต่อ คือการทำประชามติ ออกกฎหมายลูก และเลือกตั้งในปี2559 ยืนยันว่า คสช.และตน ไม่ได้ประโยชน์อะไร ที่ผ่านมามีแต่ปวดหัวตลอดเวลา มีการเสนอโครงการต่างๆเข้ามาตลอดเวลา ถ้าได้ทำมาตั้งแต่เดิมป่านนี้ประเทศไทยเจริญไปไกลถึงดาวไหนๆแล้ว แต่วันนี้ยังเป็นแค่บั้งไฟอยู่เลย นายกฯ กล่าวต่อไปว่า วันนี้การขับเคลื่อนสำคัญที่สุดทั้งภาครัฐ เอกชน ตำรวจ ประชาชน และมีการเมืองที่สร้างสรรค์ ซึ่งถือว่าวันนี้การเมืองเราสร้างสรรค์แล้ว และมีคนบอกว่าตนเป็นนักการเมืองแล้ว แต่ยืนยันว่าไม่ใช่ผมยังเป็นนักการทหาร เพียงแต่เข้ามาทำหน้าที่การเมืองบริหารงานของภาครัฐเท่านั้น
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาได้ขับเคลื่อนนโยบายเร่งรัดการปฏิบัติและบูรณาการการทำงานร่วมกัน เพราะที่ผ่านมาไม่สามารถทำงานร่วมกันได้อาจจะเป็นเพราะประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ มีพรรคการเมืองเข้ามาแบ่งแยกกระทรวงกันบริหาร ทำให้การทำงานทับซ้อนกันต่อไปไม่ได้ อย่างงบประมาณ ปี57 , 58ก็ต้องบูรณาการร่วมกันโดยเฉพาะด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้การทำงานครอบคลุมชัดเจน ซึ่งปัญหาก่อนหน้านี้ที่พบ คือไม่รู้จักหน้าที่ตัวเอง และฝ่ายการเมืองเข้ามาทาบทับ ซึ่งตนเป็นห่วงส่วนราชการ หากตนไม่อยู่จะทำกันอย่างไร ข้าราชการเองก็ต้องเตรียมตัวเช่นการแต่งตั้งวางตัวบุคคลให้ถูกต้อง ส่วนเรื่องกฎหมายก็ต้องมีความชััดเจนอย่าให้คลุมเครือ อย่าทำให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งได้ประโยชน์ ต้องยึดกฎหมายเดียวกัน ข้าราชการเป็นส่วนสำคัญเราสามารถช่วยได้ในการสร้างจริตสำนึกให้ประเทศชาติมั่นคง “ขอให้นักการเมืองคิด ผมไม่ใช่นักการเมือง คนที่อยู่กับผมก็ไม่ใช่นักการเมืองทั้งที่เป็นพลเรือน ทั้งข้าราชการ ตำรวจ ทหาร และบางอย่างที่สร้างความขัดแย้งสร้างความสุดโต่ง พวกที่คิดว่ามันต้องแบบนั้นต้องแบบนี้การคิดแบบนี้คือการสร้างวัฒนธรรมที่ผิด ผมไม่ได้บอกว่าต้องเชื่อผมทุกอย่าง แต่เราต้องพูดกันด้วยเหตุด้วยผล ที่ผ่านมาเคยเห็นนักการเมืองมาพูดแบบนี้ไหม วุ่นวายแบบผมหรือไม่ ไม่มี ผมพูดได้ทุกเรื่องเพราะผมไม่ต้องกลัวอะไรทั้งสิ้น ใครที่จะอยู่เบื้องหลังอยู่ใต้เท้าผมไม่มี จำไว้ว่าทุกคนในนี้ถ้าอยากเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในอนาคตอย่าทำในที่สิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะถ้าทำวันนี้ วันหน้าทุกคนจะเสียความภาคภูมิใจ ไปเป็นนายเขาก็ไม่มีใครนับถือ เพราะเขาก็รู้เช่นเห็นชาติกันหมด ถึงมีตำแหน่งก็ยังไม่มีอะไร แล้วสุดท้ายวันหน้าเราจะเป็นคนที่สร้างประวัติศาสตร์อันเลวร้ายให้ประเทศ ให้ลูกหลาน วันนี้มีปัญหาเราต้องช่วยกันแก้”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว นายกฯ กล่าวอีกว่า ส่วนยุทธศาสตร์รัฐบาลจะเร่งเดินหน้ายุทธศาสตร์เหล่านี้20ปี แต่พอตนจะทำแค่5ปีก็บ่นกันแล้ว ที่ตนบอกว่าจะทำยุทธศาสตร์20ปีเขาก็ไม่เข้าใจ ก่อนหน้านี้ที่จะมีความขัดแย้งเขาบอกว่าต้องปฏิรูปต้องปรองดอง วันนี้เขากลับมาถามว่าเราปฏิรูปอะไร บอกว่าวันนี้รัฐบาลเข้ามาไม่ปฏิรูปอะไรเลย เขาไม่ได้ทำกับตนนี่ ตนยอมรับว่าเหนื่อย เหนื่อยกันทั้งรัฐบาล เหนื่อยกันทุกคน ไม่เคยได้หยุดพัก ใครที่มาอ้างว่าได้เงินมากมาย ไปหามาแล้วมาบอกตน วันนี้ไม่ใช่เวลาที่มันจะมาทะเลาะกัน นายกฯ กล่าวอีกว่า สิ่งที่สำคัญอีกประการคือโลกไซเบอร์ วาทกรรมต่างๆ เราต้องตระหนักในหน้าที่ของตัวเองก่อน วันนี้วปอ.และยุทธศาสตร์สร้างมากี่รุ่นแล้ว นี่รุ่น57ตนก็เคยเรียน ตนก็เคยเรียนไม่ใช่ไม่เคย แต่เวลาตนมาเรียนพวกเราก็ยังไม่มากัน บางตัวตนก็ไปเรียนซ่อมเอา เพราะตอนนั้นมีปัญหาตอนเกษียณสมัยรุ่น50เป็นผลพวงกับปี2549ไทยเราเจอมาหนักตลอด ทรมานกันมาตั้งแต่2549จะสิบปีแล้ว ตนก็อดทนเหมือนทุกคน ว่าจะรอให้เกษียณ แต่สุดท้ายพอ6เดือนหลังมันทนไม่ได้จริงๆ เพราะเขาเล่นออกมาด่ากันทั้งสองฝ่าย และมีหลายคนบอกว่าเรายังไม่เริ่มปฏิรูปทั้งๆ ที่ตนก็ทำทุกเรื่อง ใครยังไม่รู้ก็ฟังตนบ้างจะผ่านสื่อผ่านหนังสือพิมพ์ก็ได้ ส่วนที่เขาบอกว่าตนอาจจะหงุดหงิดก็ถือเป็นธรรมดาของตน เพราะบางปัญหาตนก็แก้ปัญหาไม่ได้เลยทำให้หงุดหงิด แต่ไม่ได้โมโห หรืออาจแกล้งโมโห แต่บางครั้งก็โมโหมากกว่าที่เห็นอีก เพราะบางทีแก้ปัญหาแก้ไปแก้มาโมโหตัวเอง ตั้งแต่เป็นนายกฯ ปวดหัวทั้งวันเพราะประชุมเช้าพูดบ่าย พูดทั้งวันงงๆ ไปหมดว่าตัวเองพูดเรื่องอะไรไปแล้วบ้าง “วันนี้มาบอกว่าผมอยากอยู่ จะอยู่เท่าโน้นเท่านี้ อยู่กี่วันกี่เดือนกี่ปี ผมไม่ได้อยากอยู่สักวันจะบอกให้ เห็นใครบอกว่าเป็นนายกฯ จะดี เป็นรัฐมนตรีแล้วสนุก แต่สำหรับผมกลับบ้านก็มีแต่ความทุกข์ เดี๋ยวก็ไลน์มาแล้ว ต้องสั่งโน่นนี่นั่นสารพัด คนใต้บังคับบัญชาก็ทำไป ผมยอมรับว่าไม่มีความสุขเลยจริงๆ ดังนั้นวันนี้เราจะต้องฟันฝ่าท้าทายสิ่งที่กำลังเปลี่ยนแปลงให้ได้ ดูว่าวันนี้สังคมโลกเขากำลังพูดถึงอะไรกัน เราต้องไปให้ทันเขาให้ได้”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว เผยฝรั่งร้องเรียนจนท.ศูนย์ดำรงธรรมหลุดคำด่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหาการอ่านหนังสือไม่ออกว่า ถ้าประชาชนอ่านหนังสือไม่ได้ อ่านไม่ได้ เอกสารไม่ได้ ดังนั้นเอกสารราชการต้องทำให้อ่านง่ายขึ้น เพราะประชาชนก็กลัวเพราะเขาอ่านหนังสือไม่ออก และไม่กล้าทำอะไร และกลัวการติดต่อราชการ “อ่านไม่ออกก็ไม่เข้าใจ แต่นี่เจอ เจ้าหน้าที่ทะเลาะกับผัวมาแถมหน้างออีก นี่คือปัญหา และคนที่มาติดต่อ ส่วนชาวบ้านก็ต้องอารมณ์เย็นอารมณ์ดี ไม่ใช่โมโห และผมได้รับเสียงร้องเรียนถึงศูนย์ดำรงธรรมว่า ฝรั่งโทรมาขอความช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่ก็อธิบาย มีล่ามแปลแต่ไม่เข้าใจ ก็พูดว่าโง่ฉิบหาย บังเอิญ ฝรั่งฟังภาษาไทยออก เขาก็เลยมาร้องเรียน อันนี้เรื่องจริง” นายกฯ กล่าว
From: Komchutlurk

Related Posts:

0 comments:

Post a Comment